Wednesday, January 02, 2019

แผ่นพับ 2514 ขอบคุณทุกท่านที่อุดหนุน ที่สนับสนุน ทั้งทุน ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ทั้งกำลังใจ เราก้าวสู่ปีที่ 21 กันเถอะครับ


คำ แก้ววรรณา  2019
จากแผ่นพับปี 2541  เติมเชิงอรรถเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562

เมืองแพร่ หนึ่งในแคว้นล้านนา  มีหม้อห้อมเป็นสัญลักษณ์  กระบวนการย้อมหม้อห้อมจากธรรมชาติ  เป็นหนึ่งซึ่งบ่งชี้ว่าถิ่นนี้มีความหลากหลายของฐานทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ดั้งเดิม....  การหันมาใช้วิธีการย้อมหม้อห้อมแบบธรรมชาติ  เป็นการพยายามลดความรุนแรงของปัญหาที่เกิดจากการใช้เคมีในการฟอกย้อมผ้าทั่วไป ที่มีผลต่อสภาพแวดล้อม ทั้งดิน น้ำใต้ดิน และฝุ่นละอองในอากาศ... [i] 

ด้วยการศึกษาค้นคว้าทดลองตั้งแต่ปี 2541 โดยมีครู[ii] อาจารย์ ภูมิปัญญาพื้นบ้านช่วยให้ความรู้ ให้โอกาสทดลอง  ให้เมล็ดพันธุ์  ด้วยการค้นคว้าที่หลากหลาย  การทดลองที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก  ความล้มเหลวเป็นบทเรียนล้ำค่าที่สั่งสมไว้ 

พร้อมทั้งกำลังใจจากหลายส่วน ทั้งคนปลูกห้อม คนปลูกคราม ตัดหญ้า รดน้ำ พรวนดิน คนย้อม คนทอ คนตัด คนเย็บ คนขาย  จนถึงคนซื้อ  แก้ววรรณาจึงได้ผืนผ้าหม้อห้อมที่สวยงาม มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ  มีการขยายกำลังการผลิต  เพิ่มพื้นที่  เพิ่มคนทอผ้า... 

ในตลาดนั้น  มีการเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการย้อมหม้อห้อมธรรมชาติรายอื่น ๆ และเกิดเป็นเครือข่ายระหว่างกัน  ทั้งความร่วมมือด้านการค้า และการแข่งขันในคุณภาพ ...  ขณะที่ผู้ซื้อเข้าใจความแตกต่างของหม้อห้อมทั่วไปกับหม้อห้อมธรรมชาติ...[iii]  ส่วนหนึ่งมีความพึงพอใจในสินค้าของแก้ววรรณา  ที่มีคุณค่าในรูปแบบที่เรียบง่าย ไม่ปรุงแต่งซับซ้อน[iv]  มีความสุขใจในการใช้หม้อห้อมธรรมชาติแท้ๆ ที่ช่วยให้มีสุขภาพที่ดี ไม่มีพิษภัยจากแพรพรรณ





[i] ในช่วงนั้นความสนใจจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม  ในหลาย ๆ ปีต่อ ๆ มา จึงเพิ่มเติมเป็นภูมิปัญญา  และ มรดกวัฒนธรรม ตามลำดับ
[ii] หมายถึงทุกคนที่ให้ความรู้    อาจารย์ คือ อาจารย์ในระบบการศึกษา  ภูมิปัญญาฯ คือ บรรดา แม่ๆ ป้าๆ ที่เพิ่มเติมเสริมความรู้ ทั้งในจังหวัดแพร่ และ ภาคอิสาน
[iii] จากปี 2541 ถึง 2562  เข้าใจมากขึ้น
[iv] ถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นจุดเด่นของแบรนด์ เรื่องความเรียบง่าย